รถคันเดิมที่อยู่กับเรามานานๆ มักจะมีคุณค่าทางใจมากจนยากที่จะตัดใจเอาไปขายได้ง่ายๆ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งเราก็เริ่มเจอปัญหาจากรถยนต์แสนรัก ทั้งค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ความปลอดภัยที่ลดลง สภาพที่ทรุดโทรมจนไม่คุ้มแก่การซ่อม สิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกว่า ถึงเวลาที่เราจะต้องปล่อยรถเก่าของเราไป และมองหาตัวเลือกที่เหมาะกับการใช้งานมากกว่านี้แล้ว สัญญาณทั้งหมดที่แสดงว่าเราควรขายรถยนต์คันเก่า มีทั้งหมด 7 ข้อดังนี้
1. มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมเพิ่มมากขึ้น
สัญญาณแรกที่มักเกิดขึ้นคือค่าใช้จ่ายด้านการดูแลที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมใหญ่ที่เกิดซ้ำ ค่าชิ้นส่วนที่เริ่มหาได้ยาก หรือปัญหาจุกจิกที่ต้องเข้าศูนย์บ่อยๆ เมื่อค่าใช้จ่ายรวมต่อปีสูงเกินกว่ามูลค่าตลาดของรถ หรือแพงกว่าค่างวดรถรุ่นใหม่ที่ประหยัดกว่า นี่คือสัญญาณชัดเจนว่ารถคันเดิมอาจไม่คุ้มที่จะถือครองต่อไป
2. สภาพรถเก่าจนเริ่มใช้งานไม่ได้
เมื่ออายุรถมากขึ้น ระบบต่างๆ มักเริ่มทำงานไม่เต็มที่ เช่น เครื่องยนต์อืดลง ช่วงล่างสั่น เสียงดังขณะขับ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าภายในไม่ทำงาน สภาพเหล่านี้ทำให้ความสะดวกสบายลดลงและมีผลต่อความปลอดภัยของผู้ขับ หากเริ่มรู้สึกว่ารถไม่สามารถพาไปไหนได้อย่างมั่นใจเหมือนเดิม อาจถึงเวลาเริ่มพิจารณาเปลี่ยนรถคันใหม่หรือเลือกรถมือสองที่สภาพดีกว่า
3. ลักษณะของรถไม่ตรงกับการใช้งาน
หลายคนเริ่มต้นจากรถคันเล็กที่เหมาะกับการขับในเมือง แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาจต้องการพื้นที่มากขึ้นสำหรับครอบครัวหรือการเดินทางที่ไกลกว่าเดิม หากรูปแบบการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปจนรถคันเดิมไม่รองรับความต้องการ เช่น บรรทุกของได้ไม่พอ หรือการเดินทางต่างจังหวัดรู้สึกไม่มั่นใจ การพิจารณาปล่อยรถเก่าและเลือกคันที่เหมาะกับการใช้งานจะช่วยให้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้นมาก
4. ขายวันนี้อาจได้ราคาที่ดีกว่าในอนาคต
มูลค่าของรถจะลดลงตามอายุใช้งาน หากปล่อยให้ใช้นานเกินไปจนสภาพเริ่มโทรม ราคาขายต่อจะลดลงมาก ทำให้เสียโอกาสที่จะได้ราคาที่เหมาะสม หากรถยังอยู่ในสภาพพอใช้และมีตลาดรองรับ การตัดสินใจขายในเวลาที่เหมาะสมช่วยให้ได้ราคาใกล้เคียงความต้องการและนำไปต่อยอดซื้อรถคันใหม่ได้ง่ายขึ้น
5. ระบบรถยนต์เริ่มมีปัญหา ส่งผลต่อความปลอดภัย
เมื่อระบบเบรก ช่วงล่าง ถุงลมนิรภัย หรือระบบควบคุมต่างๆ ทำงานไม่สมบูรณ์ ความปลอดภัยจะลดลงทันที แม้จะซ่อมได้ แต่บางครั้งค่าใช้จ่ายสูงจนไม่คุ้ม อีกทั้งรถรุ่นใหม่มักมีระบบช่วยขับขี่ที่ดีกว่า เช่น ระบบช่วยเบรกหรือระบบควบคุมเสถียรภาพ ซึ่งทางที่ดีแนะนำให้เปลี่ยนรถยนต์คันใหม่จะปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินมากกว่า ดีกว่าที่จะทนใช้รถคันเดิมต่อไปแบบไม่รู้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นตอนไหน
6. รถเริ่มไม่ค่อยได้ใช้งาน มีการจอดทิ้งไว้นานเกินไป
หลายคนมีรถคันเก่าที่จอดทิ้งไว้เพราะไม่ค่อยได้ใช้ หรือมีรถคันใหม่เพิ่มเข้ามาในบ้าน การปล่อยให้รถจอดนานๆ ทำให้เสื่อมเร็วขึ้น ทั้งแบตเตอรี่หมด ยางแบน หรือระบบต่างๆ ทำงานไม่เต็มที่ การขายรถในช่วงที่ยังพอใช้งานได้ดีจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้เรา ทั้งยังช่วยให้พื้นที่ในบ้านกว้างขึ้นเพราะไม่ต้องมีรถคันเก่ามาจอดทิ้งไว้แบบเดิมอีก
7. ต้องปรับเปลี่ยนค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
บางช่วงชีวิตต้องการลดรายจ่ายรายเดือน เช่น ค่าซ่อม ค่าประกัน หรือค่าน้ำมัน หากรถคันเก่าเริ่มกินน้ำมันมากขึ้นหรือมีค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสูง การขายรถและเลือกตัวเลือกที่ประหยัดกว่า เช่น รถมือสองรุ่นใหม่หรือรถที่ค่าซ่อมต่ำกว่า จะช่วยให้การวางแผนทางการเงินคล่องตัวมากขึ้น
สัญญาณทั้งหมด 7 ข้อนี้จะช่วยให้มองภาพได้ชัดขึ้น ทำให้เราตัดสินใจง่ายขึ้นว่ารถคันเก่าเหมาะกับการใช้ต่อหรือไม่ หรือถึงเวลาแล้วที่ควรปล่อยขาน หากสภาพรถเริ่มมีปัญหาหนัก ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูง หรือไม่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน การขายในเวลาที่เหมาะสมจะช่วยลดภาระและสร้างโอกาสเลือกซื้อรถยนต์คันใหม่ที่ใช่กว่าเดิมได้ ทั้งยังส่งผลดีต่อความปลอดภัยและการใช้ชีวิตในระยะยาวด้วย
ช่องทางการติดต่อ JUSTCAR
JUSTCAR ตัวกลางซื้อขายรถยนต์มือสองครบวงจร
ที่ตั้ง : เลขที่ 12/555 หมู่ที่ 15 อาคาร ส. ทาวเวอร์ ชั้นที่ 10 ทางคู่ขนาน ถ.บางนา-ตราด ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540
เบอร์โทรติดต่อ : 02-114-3928 (สำนักงานใหญ่บางนา)
เวลาเปิดทำการ : 08:30 19:00 น.
Google Map : https://maps.app.goo.gl/uDgXVW5YYVzNSYZd7