กำลังคิดจะขายรถมือสองอยู่ แต่ไม่แน่ใจว่ารถที่ใช้อยู่จะจัดอยู่ในกลุ่มขายง่ายหรือขายยาก บางคันแค่โพสต์ไม่กี่วันก็มีคนจองทันที ในขณะที่บางคันปล่อยประกาศไว้นานจนหมดหวัง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องของโชค แต่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อ ถ้าอยากขายรถให้ได้ไว ไม่ต้องรอนาน ลองมาดูกันว่ารถลักษณะไหนที่ตลาดต้องการ และแบบไหนที่อาจต้องเตรียมใจให้ดี
ทำไมรถบางรุ่นขายง่าย แต่บางรุ่นขายยาก?
ความต้องการของตลาดเป็นปัจจัยสำคัญค่ะ ไม่ใช่รถทุกคันที่คนอยากซื้อ บางรุ่นเป็นที่นิยมสูง มีคนตามหาตลอดเวลา เช่น รถเก๋งเล็กยอดนิยม, รถกระบะสำหรับงานบรรทุก หรือรถ SUV สำหรับครอบครัว แต่บางรุ่นถึงแม้สเปกดี ราคาไม่แรง แต่กลับไม่มีคนมองหา เพราะชื่อเสียงในตลาดไม่ดี หรือมีชื่อเสียงเรื่องซ่อมยาก
ส่วนสำคัญของการขาย คือสภาพของตัวรถ รถที่ดูแลมาดี ไม่ดัดแปลง ไม่ซ่อมหนัก ย่อมขายง่ายกว่า เพราะผู้ซื้อมั่นใจได้มากกว่า ส่วนรถที่ผ่านการดัดแปลงเยอะ หรือมีประวัติการซ่อมใหญ่ ก็อาจทำให้ผู้ซื้อรู้สึกลังเล หรือถ้าอยากได้จริงๆ ก็จะขอต่อราคาแรงเป็นพิเศษ
การตั้งราคาเกินตลาดก็เป็นอีกปัจจัยค่ะ ถ้าตั้งราคาสูงเกินไป คนส่วนใหญ่จะเลื่อนผ่านไปทันที แต่ถ้าตั้งต่ำเกินไป บางคนก็จะสงสัยว่ารถมีปัญหาหรือเปล่า ดังนั้นการตั้งราคาให้เหมาะสมจึงเป็นกุญแจสำคัญอีกอย่างหนึ่ง
รถมือสองยอดนิยมขายง่าย
1. รุ่นที่ตลาดนิยม
รถยอดนิยม เช่น Toyota Vios, Honda City, Isuzu D-Max, Toyota Hilux Revo เป็นรถที่มีคนหาตลอดเวลา เพราะคนคุ้นเคยกับชื่อรุ่น มีศูนย์บริการครอบคลุม อะไหล่หาง่าย และราคาตลาดชัดเจน คนซื้อมักไม่ลังเลนาน เพราะรู้ว่าซื้อไปแล้วถ้าอยากขายต่อก็ยังมีคนรอซื้ออยู่
2. รถสภาพเดิม ไม่ดัดแปลง
รถที่ยังอยู่ในสภาพโรงงาน ไม่เปลี่ยนเครื่อง ไม่โหลดเตี้ย ไม่แต่งซิ่ง มักขายง่ายกว่า เพราะผู้ซื้อรู้สึกสบายใจ ไม่ต้องกลัวปัญหาจุกจิกในอนาคต หรือความเสี่ยงจากการซ่อมที่ไม่ได้มาตรฐาน
3. รถอายุไม่เกิน 5-7 ปี
รถที่อายุไม่มากยังมีเทคโนโลยีทันสมัย และมีอายุการใช้งานอีกนาน ผู้ซื้อส่วนใหญ่ชอบเพราะใช้งานต่อได้อีกหลายปีโดยไม่ต้องซ่อมใหญ่ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษายังไม่สูงเกินไป
4. รถที่มีประวัติการดูแลชัดเจน
รถที่มีสมุดบำรุงรักษา, ประวัติการเข้าศูนย์บริการ, ใบเสร็จการเปลี่ยนอะไหล่สำคัญ มักขายได้ง่ายกว่ารถที่ไม่มีเอกสารอะไรเลย เพราะผู้ซื้อรู้สึกมั่นใจว่ารถได้รับการดูแลจริง ไม่ได้ปล่อยละเลย
5. รถที่มีตลาดเฉพาะกลุ่ม
บางรุ่นอาจไม่เป็นที่นิยมในวงกว้าง แต่ถ้ามีตลาดเฉพาะ เช่น รถตู้สำหรับโรงเรียน, กระบะตอนเดียวสำหรับบรรทุกหนัก, หรือรถ SUV สำหรับครอบครัวใหญ่ ก็ยังขายได้เร็ว เพราะมีคนตามหาตรงกลุ่มอยู่เสมอ
รถมือสองขายยาก ราคาตก
1. รุ่นที่ตลาดไม่ค่อยนิยม
รถบางรุ่นที่คนรู้จักน้อย หรือรถนำเข้าที่มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมสูง อะไหล่หายาก จะขายได้ยากกว่า เพราะคนส่วนใหญ่ไม่อยากเสี่ยงซื้อมาแล้วหาช่างหรืออะไหล่ไม่เจอ
2. รถแต่งซิ่ง หรือเปลี่ยนเครื่อง
ถึงแม้เจ้าของจะชอบ แต่ผู้ซื้อส่วนใหญ่กลับลังเล เพราะกลัวว่ารถแต่งอาจมีปัญหาการซ่อม การต่อภาษี หรือแม้แต่การเคลมประกัน ซึ่งอาจยุ่งยากกว่ารถเดิมๆ
3. รถที่อายุเกิน 10 ปี
รถที่เก่ามาก แม้ราคาจะถูก แต่คนส่วนใหญ่จะมองว่าน่าจะเริ่มมีปัญหาจุกจิก ทั้งระบบไฟ ระบบแอร์ ระบบเครื่องยนต์ ทำให้หลายคนไม่กล้าเสี่ยงซื้อ เว้นแต่จะขายให้กับคนที่ต้องการรถราคาถูกจริงๆ หรือคนที่ซ่อมเองได้
4. รถที่มีประวัติการชนหนัก หรือจมน้ำ
แม้จะซ่อมจนดูเหมือนใหม่ แต่ถ้าประวัติไม่ใสสะอาด ผู้ซื้อที่เช็กละเอียดจะรู้สึกไม่มั่นใจ และจะขอต่อราคาแรง หรือไม่สนใจซื้อเลย
5. รถที่เอกสารไม่ครบ
การขายรถที่ไม่มีเล่มทะเบียน, มีปัญหาเรื่องการโอน หรือมีชื่อเจ้าของหลายทอด จะทำให้ผู้ซื้อถอยหนี เพราะกลัวเรื่องความยุ่งยากและความเสี่ยงทางกฎหมาย
เทคนิคเพิ่มโอกาสขายได้ไว
ถ้ารถของคุณเข้าข่าย “ขายยาก” ไม่ได้แปลว่าจะขายไม่ได้เลยนะคะ แต่ต้องเพิ่มความน่าสนใจ เช่น
- ตั้งราคาที่เหมาะสม ไม่เกินราคาตลาด
- ซ่อมแซมจุดสำคัญ เช่น ยาง, เบรก, ระบบไฟ ให้เรียบร้อยก่อนขาย
- ทำความสะอาดรถให้ดูใหม่ ทั้งภายในและภายนอก
- ถ่ายรูปชัดทุกมุม และบอกรายละเอียดจริงใจ ไม่ปกปิดจุดตำหนิ
- เตรียมเอกสารให้ครบ เช่น เล่มทะเบียน, ประวัติการซ่อม
- เลือกช่องทางขายให้เหมาะ เช่น หากขายเองไม่ได้ ลองขายผ่านเต็นท์ หรือแพลตฟอร์มที่ช่วยจัดการเรื่องเอกสารให้ครบ
รถมือสองแต่ละแบบมีโอกาสขายง่ายหรือขายยากไม่เท่ากันค่ะ รุ่นยอดนิยม สภาพเดิม เอกสารครบ และอายุไม่เกิน 5-7 ปี จะขายได้ง่ายกว่าและเร็วกว่า ส่วนรถที่มีประวัติซ่อมหรือแต่งมาก ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการหาผู้ซื้อที่เหมาะสม
การรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของรถตัวเองจะช่วยให้คุณวางแผนการขายได้ดี ตั้งราคาที่เหมาะสม เตรียมเอกสารให้ครบ และเลือกว่าอยากขายเองหรือขายผ่านตัวกลาง ถ้าทำได้ครบตามนี้ โอกาสที่คุณจะขายรถได้เร็วและไม่ต้องรอนานก็จะมีสูงขึ้นมากค่ะ