ใครที่กำลังวางแผนขายรถมือสอง เราควรรู้ก่อนว่าราคาขายของรถยนต์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนขายเพียงอย่างเดียว แต่จะมีการตรวจสอบและประเมินราคารถมือสองก่อน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานราคาและความต้องการของตลาดรถมือสอง
เพื่อทำความเข้าใจให้ง่ายขึ้น เราได้รวบรวม 5 ปัจจัยสำคัญ ที่ผู้เชี่ยวชาญใช้ในการคำนวณมูลค่ารถยนต์มือสอง เพื่อให้คนที่อยากขายรถเข้าใจถึงหลักเกณฑ์การประเมินราคา และสามารถขายรถมือสองของตัวเองได้ในราคาที่ยุติธรรมที่สุด
1. รุ่นรถ ปีจดทะเบียน และความนิยมในตลาด
ปัจจัยข้อแรกที่เป็นพื้นฐานในการประเมินราคา คือ ข้อมูลของตัวรถและความต้องการของรุ่นนั้นในตลาด
- รุ่นรถและปีจดทะเบียน รถรุ่นท็อปหรือรุ่นย่อยที่มีออปชันสูงกว่า มักจะมีมูลค่าดีกว่ารุ่นพื้นฐานทั่วไป ส่วนปีจดทะเบียนใหม่ ยิ่งใหม่ก็ยิ่งมีราคาสูง ถ้ารถปีเก่ามากก็จะถูกลง ข้อมูลของปีจดทะเบียนจึงเป็นตัวบ่งชี้อัตราการเสื่อมราคาที่ชัดเจนที่สุด
- ความนิยมในตลาด รถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูง (เช่น กลุ่มรถตลาดอย่าง Toyota และ Honda) มักจะมีราคาขายต่อที่แข็ง (ราคาตกช้า) เนื่องจากมีกลุ่มผู้ซื้อจำนวนมาก ทำให้รับซื้อรถมือสองราคาดีง่ายกว่ารถที่ไม่เป็นที่นิยมในวงกว้าง
- สีรถที่ได้รับความนิยม สีขาว สีดำ และสีเงิน/เทา มักเป็นสีที่ตลาดต้องการสูง ทำให้เพิ่มโอกาสในการขายและเพิ่มมูลค่าได้ เมื่อเทียบกับสีสันฉูดฉาดที่ขายได้เฉพาะกลุ่ม
2. เลขไมล์และประวัติการใช้งาน
เลขไมล์ คือ ตัวบ่งชี้สภาพใช้งานรถยนต์ ช่วยให้ประเมินสภาพความสึกหรอของชิ้นส่วนภายในรถยนต์ได้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะเครื่องยนต์และระบบเกียร์
- เลขไมล์ การใช้งานรถยนต์ทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 15,000-25,000 กม. ต่อปี หากรถของเรามีเลขไมล์ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย จะเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ทำให้ได้ราคาสูงขึ้น
- การใช้งานรถ รถที่ใช้งานเกินกว่า 30,000 กม. ต่อปี หรือรถที่เคยใช้งานเชิงพาณิชย์ (เช่น รถเช่า หรือรถรับส่งสาธารณะ) มักจะถูกประเมินราคาต่ำกว่ารถบ้านใช้งานทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ
- หลักฐานการดูแลรักษา ประวัติการเข้าศูนย์บริการที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ เป็นเครื่องยืนยันว่าเลขไมล์นั้นเป็นของจริงและรถได้รับการบำรุงรักษาอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการประเมินมูลค่ารถในราคาที่สูงขึ้น
3. สภาพภายนอก ภายใน และโครงสร้างตัวถัง
สภาพของรถคือสิ่งที่สะท้อนถึงว่ารถนั้นต้องการการนำรถไปซ่อมแซมและปรับปรุง (Refurbishment Cost) ก่อนนำออกขายต่อมากหรือน้อยแค่ไหน
- สภาพภายนอก การมีรอยขีดข่วน รอยบุบ หรือความเสียหายของสีรถ จะถูกหักออกจากราคาประเมินตามต้นทุนการทำสีและเคาะ
- สภาพภายใน ความสะอาดของเบาะที่นั่ง พรม และแผงคอนโซล หากมีการชำรุด, ฉีกขาด, หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ (เช่น กลิ่นอับ หรือกลิ่นบุหรี่) ย่อมส่งผลให้ราคาประเมินลดลง
- ความสมบูรณ์ของโครงสร้าง (The Golden Rule) รถที่เคยประสบอุบัติเหตุรุนแรงจนกระทบต่อโครงสร้างตัวถังหลัก (เช่น คานหน้า, เสา A/B/C) หรือรถที่เคยผ่านการจมน้ำ หรือไฟไหม้ จะไม่สามารถขายได้ในราคาสูง เนื่องจากเป็นรถที่มีความเสี่ยงสูงและถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มราคาพิเศษ (รถที่ JUST CAR รับซื้อต้องไม่มีการชนหนักถึงโครงสร้าง)
4. สถานะของอะไหล่สิ้นเปลืองที่ต้องเปลี่ยน
ผู้ซื้อรถมือสองจำเป็นต้องพิจารณาต้นทุนการซ่อมใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นทันทีหลังการซื้อขาย
- ยางรถยนต์ หากยางอยู่ในสภาพเก่า (เกิน 3-4 ปี หรือดอกยางสึกหรอมาก) ผู้ประเมินจะหักค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนยางใหม่ยกชุดออกจากราคาซื้อทันที
- อะไหล่ช่วงล่างและระบบเบรก หากพบว่าโช้คอัพมีการรั่วซึม, ลูกหมากหลวม, หรือผ้าเบรกใกล้หมด ย่อมเป็นต้นทุนที่ต้องซ่อมบำรุงก่อนการขายต่อ ซึ่งจะถูกนำมาคำนวณในการประเมินราคาด้วย
- สภาพของเหลว หากรถไม่ได้ผ่านการเปลี่ยนถ่ายของเหลวตามระยะเวลาที่กำหนด (เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์) ก็อาจทำให้ราคาประเมินลดลง
5. ภาระผูกพันทางกฎหมายและเอกสาร
ความชัดเจนของเอกสารสิทธิ์และความรับผิดชอบทางการเงิน ทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็วและราบรื่น ซึ่งส่งผลต่อราคารับซื้อโดยตรง
- การปลอดภาระหนี้ รถที่ชำระค่างวดจนครบถ้วนและปลอดภาระผูกพัน (เล่มทะเบียนพร้อมโอน) ทำให้ง่ายต่อการประเมินและซื้อขาย และได้รับราคาที่สูงขึ้น
- การโอนกรรมสิทธิ์ สภาพรถที่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ติดปัญหาการแจ้งเปลี่ยนเครื่องยนต์ หรือการดัดแปลงสภาพที่ผิดกฎหมาย จะทำให้ผู้รับซื้อสามารถให้ราคาที่ดีที่สุดได้
- การต่อภาษีและประกัน รถที่ต่อภาษีประจำปีและ พ.ร.บ. ครบถ้วน ก็เป็นอีกปัจจัยที่แสดงถึงความสมบูรณ์ของตัวรถ
การเตรียมตัวให้พร้อมด้วยข้อมูลเหล่านี้ ก่อนนำรถเข้าสู่การประเมินราคา จะทำให้คุณสามารถเจรจาและเข้าใจในมูลค่าที่คุณควรได้รับอย่างแท้จริง JUST CAR มุ่งมั่นในการประเมินราคาอย่างยุติธรรมและโปร่งใส โดยยึดหลักเกณฑ์ทั้ง 5 ข้อนี้ เพื่อให้คุณสามารถ ขายรถมือสองได้ในราคาที่ดีที่สุดตามคุณภาพที่รถของคุณคู่ควร
เมื่อเข้าใจปัจจัยเหล่านี้แล้ว ผู้ขายจะสามารถประเมินมูลค่ารถของตัวเองได้อย่างมั่นใจ และไม่ถูกกดราคาโดยไม่รู้ตัว ทีมงาน JUST CAR พร้อมให้คำปรึกษาและประเมินราคาฟรี เพื่อให้คุณขายรถได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
ช่องทางการติดต่อ JUSTCAR
JUSTCAR ตัวกลางซื้อขายรถยนต์มือสองครบวงจร
ที่ตั้ง : เลขที่ 12/555 หมู่ที่ 15 อาคาร ส. ทาวเวอร์ ชั้นที่ 10 ทางคู่ขนาน ถ.บางนา-ตราด ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540
เบอร์โทรติดต่อ : 02-114-3928 (สำนักงานใหญ่บางนา)
เวลาเปิดทำการ : 08:30 19:00 น.
Google Map : https://maps.app.goo.gl/uDgXVW5YYVzNSYZd7