อยากจะมีรถซักคันแต่งบไม่เพียงพอที่จะซื้อมือหนึ่ง การเลือกซื้อรถมือสองสภาพดีแทนก็ถือว่าเป็นทางออกที่น่าสนใจ แต่หนึ่งในคำถามหลักที่ผู้ซื้อหลายคนมักจะถามคือ “ควรเลือกรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลหรือเบนซินดีกว่ากัน?” เพราะทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ซึ่งการเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งควรพิจารณาจากลักษณะการใช้งาน ความคุ้มค่า และต้นทุนในระยะยาว เราจะพาไปดูว่าระหว่างดีเซลและเบนซิลแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และควรซื้อแบบไหน
รถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล
เครื่องยนต์ดีเซลเป็นเครื่องยนต์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของพละกำลังและการประหยัดน้ำมัน โดยเฉพาะในการขับขี่ระยะไกล และการบรรทุกที่หนัก ซึ่งทำให้ดีเซลเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้รถกระบะหรือรถ SUV
ข้อดีของเครื่องยนต์ดีเซล
- ประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์ดีเซลมีความประหยัดเชื้อเพลิงกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน โดยเฉพาะในการขับขี่ระยะไกล เหตุผลนี้ทำให้รถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นที่นิยมในหมู่คนที่ต้องเดินทางบ่อย หรือขับรถระยะทางไกลเป็นประจำ
- พละกำลังสูง เครื่องยนต์ดีเซลมีแรงบิดสูงกว่าเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการบรรทุกของหนัก หรือการขับรถบนถนนที่ต้องใช้พละกำลัง เช่น ขึ้นเขา หรือขับขี่ในสภาพพื้นที่ทุรกันดาร
- อายุการใช้งานยาวนาน เครื่องยนต์ดีเซลมักมีโครงสร้างที่ทนทานกว่าและอายุการใช้งานยาวนานกว่าเครื่องยนต์เบนซิน เนื่องจากการออกแบบเพื่อรองรับแรงบิดสูงและการทำงานในสภาวะที่หนักหน่วง
ข้อเสียของเครื่องยนต์ดีเซล
- ค่าบำรุงรักษาสูงกว่า แม้เครื่องยนต์ดีเซลจะมีความทนทาน แต่ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและการซ่อมแซมมักสูงกว่าเครื่องยนต์เบนซิน เนื่องจากชิ้นส่วนเครื่องยนต์มีความซับซ้อนกว่า
- เสียงดังและการสั่นสะเทือน รถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลมักมีเสียงดังและการสั่นสะเทือนมากกว่าเครื่องยนต์เบนซิน อาจทำให้การขับขี่ไม่ราบรื่นเท่า
- การปล่อยมลพิษมากกว่า เครื่องยนต์ดีเซลปล่อยก๊าซที่มีอนุภาคขนาดเล็กมากกว่ารถเบนซิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า หากไม่ได้ใช้เทคโนโลยีกรองไอเสียที่ทันสมัย
รถที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน
เครื่องยนต์เบนซินเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับความนิยมในรถเก๋งหรือรถยนต์ทั่วไป ด้วยคุณสมบัติที่เงียบกว่าและค่าซ่อมบำรุงที่ไม่สูงมาก
ข้อดีของเครื่องยนต์เบนซิน
- เครื่องยนต์เงียบและนุ่มนวลกว่า เครื่องยนต์เบนซินมีการสั่นสะเทือนน้อยกว่าและเสียงเงียบกว่าดีเซล ทำให้การขับขี่รู้สึกสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะในการขับขี่ในเมือง
- ค่าบำรุงรักษาต่ำกว่า เครื่องยนต์เบนซินมีโครงสร้างที่เรียบง่ายกว่า และการบำรุงรักษาเป็นเรื่องที่ง่ายและไม่แพงเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซล
- ปล่อยก๊าซน้อยกว่า เครื่องยนต์เบนซินปล่อยก๊าซที่เป็นมลพิษน้อยกว่าเครื่องยนต์ดีเซล โดยเฉพาะเมื่อเทียบในระยะการใช้งานระยะสั้น
ข้อเสียของเครื่องยนต์เบนซิน
- กินน้ำมันมากกว่า แม้ว่าเครื่องยนต์เบนซินจะทำงานเงียบกว่า แต่ก็ใช้เชื้อเพลิงมากกว่าเครื่องยนต์ดีเซลในการขับขี่ระยะไกล ซึ่งทำให้ต้นทุนการใช้งานในระยะยาวสูงกว่า
- แรงบิดน้อยกว่า เครื่องยนต์เบนซินมีแรงบิดที่ต่ำกว่าเครื่องยนต์ดีเซล ทำให้ไม่เหมาะสำหรับการบรรทุกของหนัก หรือการขับขี่ในพื้นที่ที่ต้องใช้แรงดึงสูง
เลือกเครื่องยนต์ดีเซลหรือเบนซินดี?
การเลือกว่าจะใช้เครื่องยนต์ดีเซลหรือเบนซินขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น รูปแบบการขับขี่ ลักษณะการใช้งาน และความต้องการส่วนตัว
- หากคุณเป็นคนที่ต้องขับรถระยะทางไกลบ่อยครั้ง ขับบนทางหลวง หรือต้องบรรทุกของหนัก เครื่องยนต์ดีเซล น่าจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า เพราะมีแรงบิดสูงและประหยัดน้ำมันมากกว่า
- ในทางกลับกัน หากคุณขับขี่ในเมือง ใช้รถในระยะทางสั้น และต้องการความสะดวกสบายในเรื่องเสียงและการขับขี่ที่ราบรื่น เครื่องยนต์เบนซิน จะตอบโจทย์มากกว่า เนื่องจากการขับขี่ในสภาวะเหล่านี้ไม่ต้องใช้แรงบิดมาก และเครื่องยนต์เบนซินทำงานได้ดีกว่าในระยะการขับขี่สั้นๆ
การเลือกเครื่องยนต์ดีเซลหรือเบนซินสำหรับรถยนต์มือสองสามารถเข้าชมได้ที่ เว็บขายรถมือสอง แต่สำหรับการตัดสินใจซื้อก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน หากคุณมองหารถที่ทนทาน ประหยัดน้ำมันในการขับขี่ระยะไกล และมีกำลังสูง รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจะเหมาะสมมากกว่า แต่หากคุณให้ความสำคัญกับการขับขี่ที่เงียบและราบรื่น ค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูง และใช้รถในเมือง รถที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
สนใจอยาก ซื้อ-ขาย ประเมินราคารถฟรี ติดต่อ JUST CAR ได้ทุกช่องทาง
โทร: 097-964-6747
Line: @justcarused