ซื้อรถมือสองที่ถูกใจบางทีก็ไม่ได้อยู่ในจังหวัดเดียวกับเราเสมอไป จริงไหมคะ บางคันราคาดี สภาพเยี่ยม แต่ดันอยู่ไกลอีกจังหวัด หลายคนก็เลยเลือกที่จะยอมเดินทาง หรือสั่งดูรถจากระยะไกลเพื่อความคุ้มค่า แต่ก่อนจะตัดสินใจโอนกรรมสิทธิ์ข้ามพื้นที่ เราต้องเช็กอะไรบ้าง เพื่อให้มั่นใจว่าการซื้อครั้งนี้จะราบรื่น ปลอดภัย และไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง
ก่อนจะโอนรถมือสองจากต่างจังหวัด อย่าเพิ่งรีบจ่ายเงินหรือจองคิวโอนจนกว่าจะผ่านขั้นตอนเหล่านี้ก่อน เพราะถ้ารีบเกินไป อาจต้องเสียเวลา เสียเงิน หรือเสี่ยงเจอปัญหาเอกสารไม่ครบได้ค่ะ
ตรวจสอบเล่มทะเบียน และประวัติรถให้ละเอียด
ก่อนอื่นเลยต้องขอดูเล่มทะเบียนตัวจริง และตรวจเช็กว่ารถคันนี้ไม่ได้มีภาระผูกพันหรือปัญหาใด ๆ เช่น
- ไม่ติดไฟแนนซ์ หรือหากติดก็ต้องให้เจ้าของเดิมเคลียร์ยอดให้หมดก่อน
- ไม่มีการแจ้งหาย หรือขาดต่อภาษีจนเกิน 3 ปี
- ชื่อเจ้าของในเล่มตรงกับบัตรประชาชนของผู้ขายหรือไม่
- เคยมีการเปลี่ยนเจ้าของกี่ครั้ง ชื่อบุคคลหรือบริษัทมีอะไรผิดปกติไหม
เล่มทะเบียนคือหัวใจหลักของการซื้อขายรถเลยก็ว่าได้ ถ้าเล่มไม่ตรง ไม่มี หรือขาดการอัปเดตบางอย่าง แนะนำให้ชะลอการซื้อไว้ก่อนเลยนะคะ
เช็กเอกสารให้ครบถ้วน
การโอนรถข้ามจังหวัด ต้องใช้เอกสารมากกว่าการโอนในพื้นที่เดียวกันเล็กน้อย เช่น
- เล่มทะเบียนตัวจริง
- สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ หรือหนังสือรับรองกรณีเป็นนิติบุคคล
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้าเจ้าของไม่ได้มาด้วยตนเอง)
- แบบคำขอโอนและรับโอน
- แบบแจ้งย้ายรถ (กรณีโอนข้ามจังหวัด ต้องย้ายรถไปยังสำนักงานขนส่งปลายทาง)
- หลักฐานการชำระภาษีและ พ.ร.บ. ไม่เกิน 1 ปี
การเตรียมเอกสารให้ครบจะช่วยลดความเสี่ยงในการโดนเลื่อนนัดหรือโอนไม่ได้ทันที โดยเฉพาะถ้าต้องเดินทางไกลมาเพื่อจัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะค่ะ
ตรวจสอบสภาพรถก่อนโอน
แม้จะดูจากรูปมาแล้วหลายสิบมุม หรือวิดีโอคอลดูก็ยังไม่พอ ถ้าเป็นไปได้ควรนัดดูรถจริงก่อนตัดสินใจ และอย่าลืมตรวจสอบ
- ตัวถังมีการเปลี่ยนแปลงผิดปกติหรือไม่ เช่น ตะเข็บรอยเชื่อม สีรถไม่เสมอกัน ฯลฯ
- เลขตัวถังและเลขเครื่องตรงกับในเล่มทะเบียนหรือไม่
- เอกสารการเข้ารับบริการหรือประวัติการซ่อมแซม ถ้ามีจะช่วยให้เรารู้ที่มาที่ไปของรถได้ดีขึ้น
- ลองขับเบื้องต้นเพื่อตรวจดูสมรรถนะ เช่น เบรก พวงมาลัย เสียงเครื่องยนต์
ถ้าดูเองไม่มั่นใจ อาจพาเพื่อนที่มีความรู้ หรือใช้บริการตรวจสภาพรถจากมืออาชีพก็ได้ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะพลาดเจอรถที่มีปัญหาซ่อนอยู่
ตรวจสอบค่าธรรมเนียมและภาษีที่เกี่ยวข้อง
เมื่อโอนรถข้ามจังหวัด จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการโอนในพื้นที่เดียวกัน เช่น
- ค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์
- ค่าจดทะเบียนย้ายเข้า
- ค่าออกป้ายทะเบียนใหม่ (หากต้องการเปลี่ยนป้ายให้ตรงกับจังหวัด)
- ค่าตรวจสภาพ (ถ้ารถเก่ามากกว่า 7 ปี)
ค่าธรรมเนียมเหล่านี้ไม่สูงมาก แต่ควรรู้ไว้ล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายไม่คาดคิด และควรตกลงกับผู้ขายให้ชัดว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนใด
ขนส่งจังหวัดไหนต้องทำอะไร
หลายคนสงสัยว่า ถ้าโอนข้ามพื้นที่ เราต้องไปขนส่งจังหวัดไหนบ้าง จริง ๆ แล้วกระบวนการโอนจะเริ่มจากขนส่งที่รถคันนั้นมีทะเบียนอยู่ก่อน โดยขั้น คือ
- เจ้าของเดิมไปแจ้งย้ายรถออกที่ขนส่งต้นทาง พร้อมเตรียมเอกสารให้ผู้ซื้อ
- ผู้ซื้อพารถและเอกสารไปยังขนส่งปลายทาง เพื่อดำเนินการรับโอนและย้ายทะเบียน
- รอรับเล่มทะเบียนใหม่ หรืออัปเดตข้อมูลในเล่มเดิม ตามขั้นตอนของขนส่งแต่ละพื้นที่
แนะนำให้โทรสอบถามขนส่งทั้งสองฝั่งก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าเอกสารที่เรามีครบถ้วนและตรงตามเงื่อนไขของจังหวัดนั้น ๆ
ถ้าไม่สะดวกเดินทาง มีวิธีอื่นไหม
ในยุคที่ทุกอย่างทำได้ผ่านปลายนิ้ว การซื้อรถมือสองก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปดูรถด้วยตัวเองเสมอไป โดยเฉพาะถ้าร้านมีบริการแบบครบวงจรที่ช่วยจัดการทุกขั้นตอนให้แบบไม่ต้องลุกจากโซฟาเลยด้วยซ้ำ
ถ้าเลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์กับร้านที่น่าเชื่อถือ สิ่งที่คุณจะได้รับคือความสะดวกแบบจัดเต็ม เพราะทางร้านมีทีมงานมืออาชีพที่ช่วยดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ดังนี้
- ตรวจสอบสภาพรถให้ครบทุกจุด
- ถ่ายรูปรถจากหลายมุม พร้อมให้ข้อมูลละเอียด
- ช่วยจัดเตรียมและตรวจเอกสารการโอนให้ถูกต้อง
- ดำเนินการโอนข้ามพื้นที่แทนผู้ซื้อ
- มีบริการจัดส่งรถถึงหน้าบ้าน
- ให้คำปรึกษาเรื่องสินเชื่อและการจัดไฟแนนซ์
- ตรวจสอบประวัติรถยนต์ให้ก่อนตัดสินใจ
- ช่วยประสานงานกับเจ้าของเดิมให้ทุกอย่างราบรื่น
- มีการรับประกันความพึงพอใจและความโปร่งใสของข้อมูล
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ทำให้การซื้อรถมือสองไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป แม้จะอยู่ต่างจังหวัดก็สามารถเป็นเจ้าของรถที่ถูกใจได้โดยไม่ต้องกังวลกับเอกสารหรือขั้นตอนทางกฎหมายเลยค่ะ
การซื้อรถมือสองจากต่างจังหวัดในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกและไม่ได้ยุ่งยากเหมือนแต่ก่อนเพียงแต่ต้องรอบคอบและไม่รีบร้อน โดยเฉพาะในเรื่องเอกสาร และความถูกต้องของข้อมูลต่าง ๆ การวางแผนและเตรียมตัวล่วงหน้า จะช่วยให้การโอนกรรมสิทธิ์เป็นไปอย่างราบรื่น และไม่ต้องเสียเวลาหรือเสียเงินโดยไม่จำเป็น