JUST CAR ขายรถมือสองได้ราคาดีที่สุด ขายออกไว รับเงินทันที ไม่มีกดราคา

โอนรถให้ถูกต้องในปี 2568 ข้ามจังหวัดก็ไม่วุ่น ถ้ารู้สิ่งนี้ก่อน

เวลาเราซื้อขายรถมือสอง โดยเฉพาะกับคนต่างจังหวัด คำถามที่มักจะตามมาคือ ต้องโอนยังไง? ต้องไปขนส่งจังหวัดไหน? แล้วถ้าเราอยู่กันคนละพื้นที่ จะทำเรื่องให้จบได้ง่ายๆ หรือเปล่า?

ความจริงแล้ว การโอนรถมือสองในปี 2568 ไม่ได้วุ่นวายอย่างที่หลายคนคิดค่ะ โดยเฉพาะถ้าเตรียมเอกสารให้พร้อม และเข้าใจลำดับขั้นตอนให้ชัดเจนตั้งแต่แรก ไม่ว่าคุณจะซื้อ-ขายรถในจังหวัดเดียวกัน หรือโอนข้ามจังหวัด ก็สามารถดำเนินการได้ง่ายขึ้นเยอะ

บทความนี้จะช่วยอธิบายให้เห็นภาพขั้นตอนการโอนรถที่ถูกต้อง พร้อมอัปเดตวิธีดำเนินการแบบข้ามจังหวัด ที่ทำได้จริง และไม่ซับซ้อนค่ะ

ซื้อขายรถ

ก่อนโอนรถ ต้องมีอะไรให้พร้อมบ้าง?

– รถต้องไม่มีภาระผูกพัน เช่น ติดไฟแนนซ์ หรือยังไม่ปลดภาระ
– มีเล่มทะเบียนตัวจริง
– ชื่อเจ้าของรถในเล่ม ต้องตรงกับผู้ขายที่จะทำธุรกรรม

ถ้าไม่ตรง หรือเป็นชื่อคนอื่น ต้องมีเอกสารประกอบเพิ่มเติม เช่น หนังสือมอบอำนาจ ใบมรณบัตร (กรณีเจ้าของเสียชีวิต) หรือหนังสือสัญญาซื้อขายที่มีลายเซ็นชัดเจน

โอนรถในจังหวัดเดียวกัน

หากผู้ซื้อและผู้ขายอยู่ในจังหวัดเดียวกัน ขั้นตอนค่อนข้างตรงไปตรงมา
สามารถไปดำเนินเรื่องได้ที่สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนไว้ โดยนำเอกสารและรถจริงไปตรวจสภาพและเซ็นเอกสารที่นั่น

โอนรถข้ามจังหวัด ต้องทำยังไง?

ในกรณีที่ผู้ซื้อกับผู้ขายอยู่คนละจังหวัด เช่น รถจดทะเบียนที่กรุงเทพฯ แต่ผู้ซื้ออยู่เชียงใหม่ ก็มี 2 ทางเลือกหลักคือ

1. ผู้ซื้อเดินทางมาที่ขนส่งที่รถจดทะเบียนไว้

วิธีนี้ง่ายที่สุด เพราะเป็นที่เดียวกับทะเบียนเดิม การโอนจะจบในวันเดียว โดยมีผู้ขาย ผู้ซื้อ และรถ ไปพร้อมกันที่สำนักงานขนส่ง

2. โอนลอย + ยื่นคำร้องขอย้ายทะเบียน

หากไม่สะดวกเดินทาง สามารถทำเรื่อง “โอนลอย” ได้โดยเจ้าของรถลงลายมือชื่อไว้ล่วงหน้า พร้อมหนังสือมอบอำนาจ และแบบฟอร์มขอโอน/รับโอนรถ แล้วให้ผู้ซื้อไปยื่นเรื่องที่สำนักงานขนส่งจังหวัดปลายทาง

กรณีนี้จะใช้เวลาเพิ่มเล็กน้อย เพราะต้องรอการโอนย้ายทะเบียนไปยังจังหวัดใหม่ก่อน จากนั้นจึงจะสามารถดำเนินเรื่องโอนได้ที่จังหวัดปลายทาง

ซื้อขายรถ

เอกสารที่ต้องใช้ในการโอนรถ

– เล่มทะเบียนรถ (ตัวจริง)
– สำเนาบัตรประชาชนของผู้ขายและผู้ซื้อ (พร้อมเซ็นรับรอง)
– หนังสือสัญญาซื้อขายรถยนต์
– แบบคำขอโอนและรับโอนรถ (แบบฟอร์มของกรมการขนส่ง)
– หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถไปด้วยตัวเอง)
– ใบรับรองการเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล)
– ใบมรณบัตร + มรดก (กรณีเจ้าของเดิมเสียชีวิต)

ค่าธรรมเนียมในการโอน

ค่าธรรมเนียมทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 500–1,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทรถ และขั้นตอนการโอน เช่น มีค่าตรวจสภาพรถเพิ่มเติม หรือค่าธรรมเนียมเปลี่ยนป้ายทะเบียนกรณีขอเลขใหม่

ต้องตรวจสภาพรถก่อนโอนหรือไม่?

รถที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป (สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล) ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพก่อนโอนทุกกรณี
ขนส่งจะตรวจสภาพเบื้องต้น เช่น ระบบไฟ ความเรียบร้อยของตัวถัง และเลขตัวถังรถว่าตรงกับเล่มทะเบียนหรือไม่

การโอนรถมือสองในปี 2568 ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดเดียวกันหรือคนละจังหวัดกัน ก็สามารถทำได้ง่ายขึ้นมาก หากเตรียมเอกสารครบ และรู้ขั้นตอนให้ชัดเจนตั้งแต่แรก

สิ่งสำคัญคือ อย่าลืมตรวจสอบสถานะของรถก่อนว่าไม่มีภาระผูกพันทางไฟแนนซ์ และตรวจสอบชื่อเจ้าของในเล่มว่าเป็นปัจจุบันหรือไม่ รวมถึงเลือกวิธีโอนให้เหมาะกับสถานการณ์ของทั้งสองฝ่าย

ถ้าไม่มั่นใจเรื่องเอกสาร หรือกลัวเดินเรื่องเองแล้วพลาด การใช้บริการจากแพลตฟอร์มที่รับซื้อ-ขายรถโดยมีทีมงานช่วยโอนให้ก็เป็นอีกทางเลือกที่ปลอดภัยและสะดวกขึ้นมากค่ะ

หากบทความของเราเป็นประโยชน์แก่ท่าน แชร์ให้กับคนรอบตัวด้วยนะครับ
Scroll to Top