เมื่อมีเหตุจำเป็นที่จะต้องขายรถยนต์ ไม่ว่าใครก็อยากปิดงานได้ไวและขายรถยนต์ให้ได้ราคาดีกันทั้งนั้น สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจว่าจะขายรถยนต์ส่วนตัวมือสองอย่างไรให้ได้ราคาดี ปิดการขายได้ไวและไม่ต้องปวดหัวเรื่องเอกสารการซื้อขาย มาเตรียมตัวให้พร้อมกับ 5 เทคนิคการขายรถยนต์มือสองที่นำมาฝากในบทความนี้กัน มั่นใจ! ขายรถยนต์ของตัวเองได้ไวขึ้น แถมได้ราคาดีอีกด้วย แต่จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างนั้น มาดูไปพร้อมกันได้เลย

1. นำเสนอข้อมูลทุกด้านให้ครบถ้วน

‘ความจริงใจ’ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทุกคนสามารถขายรถยนต์ส่วนตัวมือสองได้ราคาที่คุ้มค่า ดังนั้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการปิดการขายรถยนต์มือสองให้ไวและได้ราคาดี อย่าลืมนำเสนอข้อมูลของรถยนต์ให้ครบทุกด้าน หากยังไม่มั่นใจว่าจะต้องระบุข้อมูลใดให้กับลูกค้าบ้าง ขอแนะนำให้ระบุรายละเอียดให้ครบตามเช็กลิสต์ ดังนี้

• ประวัติในการดูแลรักษา เช่น การเข้าอู่และศูนย์เพื่อเช็กระยะ ถ่ายน้ำมันเครื่อง และตรวจสภาพรถยนต์ทั้งหมด
• ประวัติความเสียหาย เช่น อุบัติเหตุ รถยนต์ชนกันแบบมีและไม่มีคู่กรณี น้ำท่วม ไปจนถึงความเสียหายจากภัยพิบัติอื่น ๆ
• ประวัติในการซ่อมบำรุง/ปรับเปลี่ยนส่วนประกอบรถยนต์ เช่น มีการทำสีใหม่หรือไม่ มีการสับเปลี่ยนอะไหล่ใดในตัวเครื่อง ช่วงล่าง หรือระบบการทำงานส่วนอื่นหรือเปล่า ตลอดจนมีการยกเครื่องไปทำใหม่ เพิ่มความแรง หรือมีการปรับแต่งรถยนต์ส่วนไหนบ้าง
• ประวัติในการเคลมประกันที่ผ่านมา เช่น จำนวนครั้งที่เคลม สาเหตุในการเคลม ประวัติในการขับขี่ อู่และศูนย์ที่รับการซ่อม ไปจนถึงบริษัทประกันภัยที่เลือกใช้ ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ผู้มาซื้อได้วางแผนการเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมในอนาคตด้วย

อย่างไรก็ดี หลายคนเชื่อว่าการระบุรายละเอียดทั้งหมดของรถยนต์เป็นสาเหตุที่ทำให้ขายรถยนต์ส่วนตัวมือสองไม่ได้ แต่เชื่อเถอะว่า หากผู้ซื้อมาทราบถึงประวัติของรถยนต์ทีหลัง อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาทั้งในเชิงกฎหมายและการเอาผิดกันในระยะยาว ซึ่งสามารถสร้างความปวดหัวให้กับเจ้าของรถยนต์เดิมได้เช่นกัน ดังนั้น การจริงใจเข้าไว้จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทั้งหมดในอนาคตได้

2. อย่าลืมสตาร์ตเครื่องให้ดู

หลังจากที่ระบุรายละเอียดของรถยนต์เป็นที่เรียบร้อย ตลอดจนแจ้งผู้ซื้อถึงปัญหาและสภาพของรถยนต์ทั้งหมดแล้ว เจ้าของรถยนต์ยังสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับการขายได้ง่าย ๆ ด้วยการทดลองสตาร์ตรถยนต์ให้ดู 

ในจุดนี้ ผู้ซื้อจะสามารถเข้าใจและเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า เครื่องยนต์มีปัญหาส่วนใด มีเรื่องไหนที่ต้องได้รับการซ่อมบำรุงและตรวจสอบให้ละเอียด ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่าย ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเทคนิคการขายรถยนต์ที่ได้ผลมานักต่อนักแล้ว

หากรถยนต์ของใครมีปัญหาตั้งแต่ตอนสตาร์ต แต่ดันเป็นรุ่นรถยนต์ที่เป็นที่ต้องการของตลาด และผู้ซื้อมีความสนใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เจ้าของรถยนต์สามารถตกลงรายละเอียดการซ่อมบำรุง เงื่อนไขการรับประกัน ตลอดจนรายละเอียดอื่น ๆ ได้ในขั้นตอนนี้เช่นกัน

3. พาทดลองขับ สร้างความมั่นใจมากขึ้น

การสตาร์ตรถยนต์ให้ดู แม้จะช่วยให้ผู้ซื้อเห็นถึงสภาพและการทำงานของเครื่องยนต์ แต่อย่าลืมว่า รถยนต์นั้นเป็นทรัพย์สินที่ซื้อมาเพื่อใช้ในการขับขี่ ดังนั้น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย เจ้าของรถยนต์จึงควรให้ผู้ซื้อทดลองขับรถยนต์ด้วยเช่นกัน

แหล่งซื้อขายรถยนต์มือสองส่วนมากมักจะตั้งเงื่อนไขในการทดลองขับเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเสียค่ามัดจำรถยนต์ก่อนทดลองขับ ไปจนถึงการจ่ายเงินค่าน้ำมัน ค่าประกันหากเกิดความเสียหาย ไปจนถึงค่าใช้จ่ายในด้านอื่น ๆ ทำให้ผู้ซื้อหลายคนรู้สึกไม่มั่นใจและไม่กล้าที่จะขอทดลองขับ

ดังนั้น หากต้องการสร้างความแตกต่างและเพิ่มโอกาสในการขายรถยนต์ให้ได้มากที่สุด เจ้าของรถยนต์ควรให้ผู้ซื้อทดลองขับโดยไม่มีเงื่อนไขที่ผูกมัดจนเกินไป เช่น อาจมีการตกลงค่าน้ำมันรถยนต์บางส่วน หรือทำการตกลงในกรณีที่ทดลองขับแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยเทคนิคการขายรถยนต์เช่นนี้จะช่วยสร้างความเป็นธรรมให้กับทั้งผู้ซื้อและเจ้าของรถยนต์ได้

4. เตรียมเอกสารให้พร้อมอยู่เสมอ

หลังจากที่ตกลงราคาและเงื่อนไขในการซื้อขายรถยนต์มือสองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในฝั่งของเจ้าของรถยนต์ที่ต้องการขาย ขอแนะนำให้เตรียมเอกสารการขายให้พร้อมเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ โดยเอกสารที่ต้องใช้ในการขายรถยนต์ส่วนตัวมือสองนั้นจะประกอบไปด้วย

1. เล่มทะเบียนรถยนต์ หรือสมุดคู่มือจดทะเบียนเล่มสีฟ้า
2. สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถยนต์
3. แบบคำขอโอนและรับโอน ขอได้ที่กรมการขนส่งทางบก โดยขอแนะนำให้ผู้ขายและผู้ซื้อไปกรอกเอกสารและไปยื่นพร้อมกันในวันรับรถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบก
4. สัญญาซื้อขาย 2 ฉบับ ภายในเอกสารควรมีการระบุราคา เงื่อนไขการซื้อ วัน/เวลา/สถานที่ทำสัญญา รายละเอียดของรถยนต์ทั้งหมด ชื่อผู้ซื้อขายและรายละเอียดการชำระเงิน
5. สัญญาเช่าซื้อ ในกรณีที่รถยนต์ยังติดไฟแนนซ์อยู่ ติดต่อสอบถามรายละเอียดส่วนนี้ได้จากทางสถาบันการเงินที่ขอสินเชื่อเอาไว้
6. หนังสือมอบอำนาจจากกรมการขนส่งทางบก
7. อุปกรณ์ที่มากับรถยนต์ทั้งหมด และกุญแจสำรอง

5. ศึกษาความรู้เรื่องการทำไฟแนนซ์รถยนต์เบื้องต้น

สำหรับเจ้าของรถยนต์ที่ต้องการขายรถยนต์ส่วนตัวมือสอง แต่ผู้ซื้อมีเงินสดไม่เพียงพอและมีความจำเป็นที่จะต้องขอสินเชื่อมาซื้อรถยนต์เพิ่ม เจ้าของรถยนต์สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนได้ ดังนี้

1. ให้ผู้ซื้อติดต่อกับสถาบันการเงินที่สนใจ
2. จัดสัญญามัดจำจองรถยนต์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยให้ผู้ซื้อชำระเงินมัดจำกับทางผู้ขาย พร้อมทำสัญญาระบุวันและเวลาในการชำระเงินที่เหลือ ตลอดจนมีการระบุเงื่อนไขการคืนเงินและรายละเอียดอื่น ๆ ในกรณีที่ขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินไม่ผ่าน
3. ผู้ซื้อติดต่อขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน 
4. หากสถาบันการเงินอนุมัติการขอสินเชื่อ ทางผู้ขายจะต้องนำรถยนต์ไปให้ทางสถาบันการเงินตรวจสอบ
5. หากไม่มีปัญหาใด ๆ เพิ่มเติม สถาบันการเงินจะนัดผู้ซื้อและผู้ขายมาทำสัญญาซื้อขายกัน จากนั้นไปทำเรื่องโอนรถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบก แต่รถยนต์จะเป็นกรรมสิทธิ์ของสถาบันการเงิน
6. เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อย เจ้าของรถยนต์ก็จะได้รับเงินและขายรถยนต์ส่วนตัวมือสองได้แล้วเสร็จ 

หากเป็นกรณีที่เจ้าของรถยนต์ยังติดไฟแนนซ์อยู่ เจ้าของรถยนต์จะต้องเป็นผู้ไปขอรีไฟแนนซ์รถยนต์กับทางสถาบันการเงิน โดยในสัญญาดังกล่าวจะมีการระบุราคารถยนต์ ยอดจัดไฟแนนซ์ ดอกเบี้ย ยอดผ่อน และยอดคงเหลือ จากนั้นนำเอกสารดังกล่าวนี้ไปพิจารณาร่วมกับผู้ซื้อและทางสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องต่อไป

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 เทคนิคการขายรถยนต์ส่วนตัวมือสองที่นำมาฝากในบทความนี้ แม้จะมีรายละเอียดที่ต้องพิจารณาและลงมือทำหลายอย่าง แต่หากลองนำไปปรับใช้ รับรองว่าการขายรถยนต์ส่วนตัวมือสองจะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นได้อย่างแน่นอน 

สำหรับเจ้าของรถยนต์คนไหนที่ไม่มีเวลาในการตรวจสอบทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด JUST CAR พร้อมตอบโจทย์การขายรถยนต์ส่วนตัวมือสองอย่างมีประสิทธิภาพด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่คอยตรวจสอบสภาพรถยนต์กว่า 200 จุด พร้อมให้คำแนะนำด้านการทำเอกสารและการดำเนินการทางไฟแนนซ์อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เลือกช่องทางการขายรถยนต์มือสองที่มีประสิทธิภาพ เพิ่มโอกาสปิดการขายได้ไวยิ่งขึ้น เลือกขายรถยนต์มือสองคุณภาพดีกับ JUST CAR สอบถามเพิ่มเติมที่ 02-114-3928

Tel : 02-114-3928 

Facebook : JUST CAR ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจรถมือสองครบวงจร 

Instagram : JUSTCAR.Thailand

Youtube : @justcar.official